บ้านโทนสีขาว Tribe Studio Architects ของประเทศออสเตรเลีย ได้ก่อสร้างบ้านรูปตัวยูที่ห่อหุ้มด้วยไม้ในเมืองนิวเซาท์เวลส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็น “บ้านต้นแบบที่ราคาถูกแล้วก็ยืนยง” ซึ่งเป็นบ้านพักผ่อนตากอากาศชั้นเดี่ยวของนักออกแบบเอง ในหมู่บ้านชายทะเลของ Bundeena ตั้งอยู่ตอนใต้ ของซิดนีย์ใน Royal National Park การออกแบบสำหรับบ้านนี้แม้ว่าจะเป็นบ้านไม่หรูหรา Phuket Villas
บ้านโทนสีขาว
แต่ว่าย้ำให้ใกล้เคียงตามสุนทรียศาสตร์ของพื้นที่ และก็สภาพภูมิอากาศ ของประเทศออสเตรเลีย ในเวลาเดียวกันก็จำต้องคุ้มคุ้มราคา ตระหนักถึงสภาพแวดล้อม แล้วก็ส่งเสริม กิจการค้าในเขตแดน เป็นความเสร็จเชิงเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดาที่พร้อมความสมบูรณ์ทางสถาปัตยกรรม และก็สภาพแวดล้อมในระดับที่ค่อนข้างสูง

“บ้านข้างหลังนี้เป็นที่พักผ่อนจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย ซึ่งผลักดันวิถีชีวิตขอบชายทะเลซึ่งสามารถดำเนินชีวิตได้ช้าลง Bundeena House เป็นบ้านพักผ่อนตากอากาศที่เน้นย้ำสวน และก็พื้นที่ ทำกับข้าว แล้วก็เป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมของเด็ก แล้วก็คนแก่” Hannah Tribe คนเขียนแบบชี้แจง ตั้งอยู่ห่างจากหาดทราย Gunyah 100 เมตร มีเพื่อนบ้าน 7 ข้างหลัง ที่อยู่ชิดกัน ทำให้บริบทเป็นทั้งยังริมตลิ่ง รวมทั้งนอกเมือง Tribe ก็เลยเลือกที่จะไม่ติดตามแบบบ้านสองชั้นที่เพิ่มความสูงเพื่อเก็บภาพทิวทัศน์แผ่นน้ำ แม้กระนั้นยัดเยียดข้อหาท้าด้วยการผลิตบ้านชั้นเดี่ยวที่มีความสามารถได้ในสิ่งแวดล้อมที่มากมาย สามารถแลเห็นตั้งแต่ริมทะเล พุ่ม ไปจนกระทั่งพื้นที่ปริมณฑล home
ด้านในเต็มไปด้วยความงดงามที่บรรเทา
แล้วก็ดิบๆจากการเลือกใช้อุปกรณ์ บ้านๆมีความคงทน มีความยืนยง และไม่แพง ยกตัวอย่างเช่น ไม้จริงที่ใช้ตลอดส่วนประกอบเป็นไม้ปลูกจากสวนที่ผ่านการยืนยัน ไม้วีเนียร์ ฉาบ ลามิเนต (LVLs) ไม่มีแผ่นยิปซั่ม มีแม้กระนั้นฝาผนังไม้ลงสี รวมทั้งหน้าต่างไม้ เนื้อแข็งใน Australian Blackbutt ผิวคอนกรีตที่มีส่วนประกอบไม่ขัดมัน ก็เลยไม่คือปัญหาสำหรับรอยตีนแฉะ และก็ทราย ตัวตึกเน้นไปที่การรับลมที่พัดผ่าน ช่วยทำให้ด้านในตึกเย็นลงในวันที่อากาศอบอุ่น
บ้านชั้นเดี่ยววางแผนผังบ้านให้เป็นรูปตัว U แบ่งตึกบอกเป็น 3 ส่วน ปิดล้อมคอร์ทยาร์ทจัดเป็นสวนอยู่กึ่งกลาง บ้านแบบไม่มีขั้นบันไดแล้วก็การผลิตประตูหน้าต่าง ขนาดใหญ่ เบือนหน้าเข้าพบสวนข้างหลังนี้ ยังมีความยั่งยืนมั่นคงด้านสังคมอีกด้วย เนื่องจากผู้ครอบครอง สามารถ อยู่ข้างในห้องโซนหนึ่ง ในตอนที่แขกสามารถเลือกอยู่ในปีกอื่นๆของบ้าน แขกก็เลยมีความเป็นส่วนตัวแม้กระนั้นยังเชื่อมต่อกันได้ แล้วก็ใช้ประโยชน์ จากธรรมชาติได้เท่าๆกัน
ในบ้านมีห้องสว่างรวมทั้งแผนผังห้องที่ลื่นไหล พื้นที่ศูนย์กลางมี ห้องเปิดเตียนโล่งสำหรับประกอบอาหาร ทานอาหาร และก็พัก ฝาผนังเล็กน้อยที่ออแบบ ให้ยืดหดได้ ด้วยการใส่ประตู Pocket door ขนาดใหญ่ให้การเชื่อมต่อที่ราบสดชื่นกับข้างนอกตึก โซฟาในตัวในห้องรับแขกสามารถปรับ เป็นเตียงได้ ทำให้บ้านสามารถรองรับแขกเพิ่มเติมอีกได้ พร้อมสูงถึง 12 คน พื้นคอนกรีต มิได้ขัดมันเพื่อจัดแจงกับรอยตีนแฉะก่อนเข้าบ้าน ด้านในก็เป็นอุปกรณ์เดียวกันสร้างความรู้สึกตลอดของพื้นที่ พื้นอย่างนี้ยังสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศที่เก็บความอุ่นก้าวหน้าในช่วงฤดูหนาว แล้วก็เย็นในช่วงฤดูร้อน

บ้านมีส่วนประกอบที่จีรังยั่งยืนมากมายก่ายกอง รวมทั้งหน้าต่างกระจกสองชั้น ม่านบังแสงสว่างแบบปรับได้ แล้วก็ฉนวนกันความร้อนที่แน่นหนาทุกด้านไม่ว่าจะเป็นข้างบนหลังคา หรือข้างๆ ข้างในยังมีเตาผิง Philippe Chemise ของประเทศฝรั่งเศสที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นความสุรุ่ยสุร่ายที่สุดในบ้านแต่ว่าสมเหตุ สมผล เหตุเพราะทำให้บ้านทั้งยังข้างหลังอุ่นขึ้นได้โดยทันทีในช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัด แสงไฟเป็น แอลอีดี ทั้งสิ้น HOME
บนหลังคาจัดตั้งแผงโซล่าเซลล์ขนาด 5kw ช่วยทำให้บ้านพึ่งตัวเองด้านกระแสไฟฟ้าได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบระเบียบเก็บน้ำฝนและก็แนวทางในการรีไซเคิลน้ำฝนไปยังห้องสุขา เครื่องซักผ้า และก็ใช้รดน้ำในสวน ทำให้บ้านใช้น้ำได้อย่างชาญฉลาด
แต่งบ้านชุดโทนสีขาวดำแล้วก็ไม้ในสไตล์โมเดิร์น
คุณเชื่อเรื่องแรงดึงดูดไหม มีหลายทีในชีวิตที่พวกเรารู้สึก เอ๊ะ! นี่บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็ได้ เพราะเหตุว่าเรื่องช่างประจวบเหมาะ เหมาะสมเหลือกตาเกิน อย่างการมองหาพื้นที่ก่อสร้างบ้าน บางคราวพวกเราหาเป็นเวลานานมาก แล้วก็มีความคิดว่าอาจไม่มีทางได้ครอบครอง แม้กระนั้นท้ายที่สุดบทจะพบก็พบกันแบบง่ายๆตัวอย่างเช่นบ้านข้างหลังนี้ ที่เจ้าของบ้านคิดว่า “พวกเรามิได้มองหา แม้กระนั้นจักรวาลเหวี่ยงบ้านในฝัน ของพวกเรามาวางเอาไว้ที่ด้านบนตัก’ เมลิสสา เจ้าของบ้านกล่าว อย่างไรก็แล้วแต่ถึงแม้ว่าสถานที่ตั้ง ขนาด รวมทั้งสมรรถนะจะถูกอกถูกใจ ใช่เลย แม้กระนั้นก็ยังปรารถนาความสามารถคนเขียนแบบมารังสรรค์ด้านในให้บ้านมีความสมบูรณ์แบบพร้อมรับไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้มากที่สุด HOME
คนจำนวนไม่น้อยใฝ่ฝันที่จะย้ายไปยัง สถานที่เที่ยว ที่พวกเขารู้สึกชื่นชอบ เหมือนกับผู้เขียน นักพูด แล้วก็ฉันรูด้านการช่วยเหลือตัวเอง Melissa Ambrosini แล้วก็ Nick Broadhurst ผัวนักเล่นดนตรี ที่การมาเยี่ยมนูซาในกาลครั้งหนึ่งแปลงเป็นแรงผลักดันให้ย้ายมาอาศัยอยู่ตรงนี้ ทั้งสองได้แปลงยูนิต บ้าน ที่ผลิตขึ้นจากทศวรรษ 1970 ให้เป็นบ้านต้นไม้สูงลิ่ว ซึ่งพวกเขาแบ่งปันประสบการณ์ การใช้ชีวิตใหม่ๆกับลีโอ (ลูกชาย) ของนิค คนเขียนแบบก็เลยจำต้องมองหาสิ่งที่พิเศษที่สุดเพื่อบ้านได้ใช้ประโยชน์ จากบริบท ให้เยอะที่สุด เริ่มจากการจัดวางแนวทางใส่ช่องเปิดให้เห็นตะวันขึ้น ที่น่าทึ่งที่สุด ในห้วงสมุทร และก็แสงสว่างระยิบระยับ ระยิบระยับ ที่สะท้อนเหนือแผ่นน้ำ
พื้นที่ดำรงชีวิตหลัก ของบ้านจะอยู่ที่ข้างบน มี ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องรับแขกที่เชื่อมต่อออกไปรับภูมิทัศน์รอบบ้านได้กว้างรวมทั้งไกล จากจุดนี้จะเห็นใบไม้เขตร้อน อันเขียวชอุ่ม รอบกายบ้าน จรงระเบียงวางโซฟาเตี้ยที่ปรับให้เป็นเดย์เบดได้ เพื่อสร้างลุคที่บรรเทา เยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นฝีมือจาก CLO Studios นั่นเอง ส่วนกระถางปลูกดอกไม้ภายนอก ทำด้วยหินอ่อนสีขาว ที่เหลือจากห้องอาบน้ำ
ครัวดูเหมือนจะเป็นจุดโฟกัสสายตา
ที่งามมากมาย จุดหนึ่งของบ้าน ด้วยการออกแบบ ความผสม ของสีที่มีอีกทั้งหนักค่อย หรูหราคละเคล้าธรรมชาติ เป็นต้นว่า บานตู้ไม้แพทเทิร์นเส้นเรขาคณิต ไอส์แลนด์หินอ่อนสีดำลายงาม ฝาผนังใบเสร็จรับเงินท์อินสีดำสนิทเฉียมคม ที่ตัดกับสีขาวสะอาดตา
แอบซ่อนฟังก์ชันตู้แช่เย็นตู้ที่เอาไว้เก็บของเอาไว้ อย่างแนบสนิท ประดิษฐ์ลูกเล่นเพิ่มเติมอีก ด้วยการต่อว่าดตั้ง แอร์แล้วใส่จัดตั้งที่กรองสีดำครอบเหนือตู้ห้องครัว สำหรับเนื้อหา ของงานไม้ทั้งสิ้น ที่เจอเป็นชุดโต๊ะพร้อมม้านั่งรับประทานข้าว ฝาผนังบานตู้ตีแพทเทิร์นผิดตาดีไซน์โดย Melissa แล้วก็คนเขียนแบบ Dirk Anderson ของ Nick รวมทั้ง Wes Mollenhauer
ห้องนอนเจาะหน้าต่างเป็นวงกลม รวมทั้งมีช่องเปิดสี่เหลี่ยมเรียงยาวข้างๆกัน ฝาผนังที่เหลือข้างประตู วางกระถามไทรใบสักสีเขียวเข้มมองชื่นบานเด่น ท่ามกลางห้องสีขาว ที่มองสงบ ชักชวนพัก ‘พวกเราไม่มีผ้าม่าน หรือม่านบนหน้าต่างห้องนอน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทุกรุ่งเช้าพวกเราตื่นมากับแสงอาทิตย์ แล้วก็นกร้อง ให้รู้สึกเสมือน อยู่ในบ้านต้นไม้จริงๆ’ เมลิสสาบอก

นอกเหนือจากความสวยแล้ว บ้านข้างหลังนี้ ยังมีทำเลที่ตั้งและก็ความสัมพันธ์ กับธรรมชาติ ที่ทำให้บ้านข้างหลังนี้ มีความพิเศษมากมายสำหรับเจ้าของบ้าน Melissa ชี้แจงว่าใช้เวลาเดิน 30 วินาทีก็ไปถึงหาด หรือขึ้นไปปีเล่นบนบนต้นไม้ รวมทั้งทุกเช้าตรู่พวกเราตื่นกับแดด รวมทั้งนกขับร้องที่ช่างสงบเงียบ อบอุ่น แล้วก็เป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เพอร์เฟ็คสำหรับแนวทางการใช้ชีวิต บิ้วอินห้องนอน
การเลือกสิ่งของก่อสร้างบ้าน ไม่ใช่แค่เลือก ที่ความสวยงามแค่นั้น แม้กระนั้นยังจำเป็นต้องเล่าเรียนคุณลักษณะของสิ่งของที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ ที่ตั้งของบ้านด้วย อาทิเช่น บ้านหาดทราย ต้องพบเจอกับลักษณะอากาศ ที่ค่อนข้างจะปรวนแปรทั้งยังมรสุม ความร้อน ความชุ่มชื้น รวมทั้งไอเกลือ ซึ่งสามารถกัดเซาะ อุปกรณ์ ก่อสร้างบ้านที่ปราศจากความทนได้ อุปกรณ์ที่เหมาะสมจะใช้งาน ได้แก่ คอนกรีตทนน้ำทะเล หรือเมทัลชีทฉาบอลูซิงค์ ทำให้ทนต่อการกัดกร่อนมากยิ่งกว่าการเคลือบด้วยสังกะสีสิ่งเดียวหลายเท่า
ห้องครัวแบบเปิดโล่งเตียนเป็นเหมือนหัวใจ ของบ้าน ก็เลยดีไซน์ให้มีฟังก์ชันใช้งานพร้อมรองรับงานงานเลี้ยงหน้าร้อนได้ทุกรายการอาหาร ส่วนฝาผนังบ้านก็เปิดออกได้กว้างเสมือนจุดอื่นๆสร้างความเลื่อมใสมต่อทั้งยังด้านมุมมองและก็พื้นที่ที่ไหลลื่น เมื่อมีอีเวนท์ตรงนี้จะรองรับสมาชิกได้มาก ทุกคนใช้พื้นที่ ข้างในด้านนอกได้ เต็มสมรรถนะ
โซนส่วนตัวมีห้องนอนสำหรับคนแก่สองห้อง และก็ห้องสำหรับ เด็กซึ่งสามารถรองรับเด็ก ได้หกคน การตกแต่ง เป็นธีมเดียวกับพื้นที่ อื่นๆทั้งยังข้างหลังเป็น พื้นเป็นคอนกรีต เพดานตีด้วยไม้ กรอบประตูหน้าต่างไม้บาน กรุอุปกรณ์กระจกบานเปลี่ยนที่ เปิดออกได้กว้าง มองดูไปทางไหน ก็ได้รับทิวทัศน์ธรรมชาติ
จุดเด่นของการออกแบบ บ้านทรงตัว U (U Shape House)หมายถึงทุกห้องได้โอกาสที่จะแลเห็นซึ่งกันและกัน มีพื้นที่ที่โล่งแจ้งศูนย์กลางที่ปฏิบัติภารกิจเป็น อีกทั้งศูนย์กลางกิจกรรม และก็เป็นตัวแบ่งกันขอบเขต การใช้แรงงานให้พอดี การโอบโม้นกลางแจ้งที่บางครั้งอาจจะจัดเป็นสวน หรือสระว่ายน้ำไว้ภายใน จะมีผลให้การใช้แรงงานเป็นส่วนตัว ออกมาจากงามตา บุคคลภายนอก (ในเรื่องที่หัน เข้าข้างในบ้าน) แม้กระนั้นถ้าเกิดจะปลูกเรือน อย่างนี้ ในไทย ต้องระมัดระวังเรื่องความร้อน และก็มองแนวทางบ้านให้ระบายลมเข้า/ออก เพราะเหตุว่าจะมีด้านที่อับลมอยู่ด้วย และก็อาจมีปัญหาน้ำกระเด็นเข้าตัวบ้านเมื่อฝนตกหนัก
U House จัดสนามเสมือนฟาร์มเล็กๆ
ผู้ใดกันที่ถูกใจบ้านกลิ่นแบบลูกทุ่งๆคาวบอย คงจะต้องการจะมีบ้านที่เต็มไปด้วยสนามเขียวๆกว้างสุดลุกหูดวงตา หน้าบ้านมีรั้วคอนกรีตเตี้ยๆมองเป็นมิตร และก็โคตัวน้อยและเล็มยอดต้นหญ้า มองอบอุ่น แต่ว่าใช่ว่าทุกคนจะได้โอกาสเป็นเจ้าของเสมอ เนื่องจากวิถีชีวิต ของคนจำนวนมากอยู่ในเมืองซึ่ง มีพื้นที่น้อย แม้กระนั้นก็ใช่ว่าจะทำบ้านอารมณ์แบบฟาร์มวัวนมมิได้ ลองดูตัว อย่างการจัดพื้นที่ บ้านขนาด 238 ตารางเมตข้างหลังนี้ ที่วางแบบแปลนบ้านเป็นรูปตัว U ทำให้เหลือพื้นที่ กึ่งกลางปู สนามเขียวๆตกแต่งด้วยรูปปั้นโคตัวลาย เท่านี้ก็ทำให้บ้านเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาจากธรรมชาติฟาร์มได้เช่นเดียวกัน
บ้านชั้นเดี่ยว ตกแต่งบ้านด้วยไม้เก่าอารมณ์ต่างจังหวัด
โครงงานนี้เป็นการฟื้นฟูกระต๊อบ 3 ห้องนอน ที่สร้างในปี 1850 ที่เสื่อมโทรมอย่างหนัก Jost Architects ก็เลยเข้ามาปรับแต่งบ้านทั้งยังแนวทางการทำให้ดูดีขึ้นทั้งยังด้านนอกและก็ด้านใน โดยใช้สิ่งของจากภูมิลำเนาให้สูงที่สุด เพื่ออดออมงบประมาณแล้วก็ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มที่สุด ส่วนด้านในมีนิดหน่อยถูกเอาออกรวมทั้งนิดหน่อยเพิ่มเข้ามา เพื่อเอื้อต่อการการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการจัดแผนผังในบ้านแบบเปิดเตียนโล่ง รวมพื้นที่ทานอาหาร, ครัว, ห้องนันทนาการ, ส้วม และก็มีเดินเชื่อมต่อกันได้หมด