บ้านสไตล์ คลาสสิก

บ้านสไตล์ คลาสสิก

บ้านสไตล์ คลาสสิก

บ้านสไตล์ คลาสสิก ยังจำกระต๊อบน้อยหลังคาจั่วฝาผนังหินที่พวกเรามักพบในการ์ตูนหรือภาพยนตร์เก่าๆกันได้หรือไม่ หลายท่านยังคงไม่ลืมเลือนกลิ่นความอบอุ่นของทรงรวมทั้งสิ่งของ เพียงแต่ว่าสำหรับในการดำเนินชีวิตจริงๆนั้น การทรงสภาพเดิมๆแบบกระต๊อบที่พวกเราเคยคุ้นบางครั้งก็อาจจะไม่ตอบปัญหา จะดีไหมนะหากมีบ้านแบบคอทเทจที่มองร่วมยุคขึ้น รับแสงสว่างธรรมชาติและก็ทิวทัศน์ได้มากไปกว่าเดิม ในขณะยังคงความรู้สึกสนิทสนมกับธรรมชาติยังคงอยู่อย่างเดิม สำหรับผู้ที่มองหาคอทเทจสไตล์ร่วมยุค
บ้านสไตล์ตะวันออก

บ้านข้างหลังนี้อยู่เขตปริมณฑลบนริมตลิ่งทางด้านใตนของมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ผลิตขึ้นในรุ่นของป๊ะป๋าตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1960 ในสไตล์คอทเทจหรือกระต๊อบที่มองอบอุ่น สิ่งของสำคัญๆเป็นสิ่งที่หาได้ในแคว้นที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเป็นธรรมชาติ เป็นต้นว่า แผ่นหินขนาดใหญ่และก็ไม้ ภายหลังจากผ่านไป 50 ปี ภาพรวมตัวบ้านก็ยังดูดีเนื่องจากว่ามิได้ปฏิบัติงานอะไรมากมาย แม้กระนั้นก็อยากการบูรณะในบางจุด เนื่องจากว่าภูมิลำเนาไม่มีแสงสว่างธรรมชาติเข้ามาเท่าไรนัก และก็มีห้องปิดหลายห้องล้อมบันไดกลางบ้าน ทำให้บ้านมองมืดทึบ

กำแพงรวมทั้งฝาผนังบ้าน

เล็กน้อยที่เป็นอผ่นหิน มีความแข็งแกร่ง มาอยู่แล้วจึงแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แม้กระนั้นในส่วนของหลังคาเดิมถูกเปี่ยน เป็นเมทัลชีท seamless กับฝาผนังไม้ ที่กลายเป็นสีดำ มองเรียบชัดเจน ทำให้ลุค บ้านมองล้ำสมัยขึ้น ในทันที สำหรับอีกส่วนที่ปรับปรุงแก้ไขสำคัญๆเป็น การเปิดตึกทางทิศใต้ด้วยประตูต่อเชื่อมเฉียง ด้วยกระจกบานใหญ่ การถอดพาร์ว่ากล่าวชั่นเดิมในบ้านบางจุดให้แสงสว่างธรรมชาติส่องเข้าไปในตัวบ้านได้ลึกขึ้น HOME

เมื่อเปิดประตูก้าวเข้าสู่ตัวบ้านจะมองเห็นบันไดเหล็กสีดำ ที่ห่อด้วยไม้วีเนียร์ เมเปิ้ลสีอ่อนๆและก็กระจกฝ้า เป็นเสมือนประติมากรรมยุคใหม่ที่สร้างจุดโฟกัสของบ้าน ข้างในด้านล่างนี้จะมีห้องรับแขก มุมอ่านหนังสือ ห้องครัว โต๊ะรับประทานอาหาร กระจัดกระจายอยู่รอบบันไดและก็สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้หมด เพราะว่าคนเขียนแบบรื้อถอนฝาผนังเก่า ที่มิได้ใช้งานออกให้เป็นสเปซเดียวขนาดใหญ่ พื้นที่ในบ้านก็เลยมีความโปร่งลื่นไหลขึ้น แสงสว่างจากประตูหน้าต่างกระจัดกระจายไปสู่พื้นที่ดำเนินชีวิตเจริญขึ้นตรงตามความปรารถนาของผู้อาศัย

บ้านสไตล์ คลาสสิก

ประตูกระจกหมุนได้ สองบานตรงทางเข้าออก นำไปสู่ห้อง sunroom ที่อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว แม้กระนั้นตรงนี้อากาศหนาวมากมาย เพียงแค่แสงสว่างสิ่งเดียวก็เอาไม่อยู่ ก็เลยควรมีเตาผิงด้านในภายด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านก็คงจะเตาผิงหินขนาดใหญ่โตมโหฬารเอาไว้แล้วแก้ไข ให้สะอาดไม่เป็นอันตราย ขึ้นด้วยการใช้กระจกนิรภัยทนไฟติดแทนการเปิดโล่งเตียน ไม่น่าเชื่อว่าวัสดุที่มีผิวหยาบๆดิบๆตัดกับความราบเรียบบริสุทธิ์ ของส่วนประกอบใหม่ จะอยู่ร่วมกันได้อย่างพอดีโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดทั้งปวง

ส่วนเคาท์เตอร์ไอส์แลนด์ในห้องครัว มีแขนยื่นออกมา 2.4 เมตรจากตัวตู้ แปลงเป็นโต๊ะศูนย์รวมพื้นที่เตรียมอาหาร รวมทั้งพื้นที่กิน ของกินไว้ภายในชิ้นเดียว ช่วยกระชับมัธยัสถ์พื้นที่ ในบ้านให้เหลือพื้นที่ให้บ้านมองเตียนโล่งมากขึ้นเรื่อยๆ บริเวณห้องครัวมีประตูกระจกสูงจากพื้น แทบถึงเพดาน นำมาซึ่งการทำให้โซนห้องครัวเต็มไปด้วยแสงสว่าง เปิดมุมมองออกไปข้างนอกมองเห็นทิวทัศน์ได้กระจ่างแจ้ง บ้านมีความโปร่งสบาย ค่อย ไม่เหมือนกับตึกเดิมอย่างเห็นได้ชัด

นอกเหนือจากการปรับแต่งสิ่งที่ทำมาอยู่เดิมแล้ว ยังมีการเพิ่มหอพักสไตล์ร่วมยุคบนหลังคาของบ้าน แล้วก็ห้องอาบน้ำชั้นสองสองห้องที่คงจะธีม ของการตกแต่งโทนสีขาว เทา รวมทั้งงานไม้สีอ่อนๆตัดกรอบสายตาสีดำมองน่าใช้งานสบายๆ

หิน เป็นสิ่งของธรรมชาติที่มีลวดลายสวย แล้วก็มีเอกลักษณ์ ที่ไม่ซ้ำกัน หินจะมีคุณลักษณะการดูแลรักษาระดับอุณหภูมิข้างในตึก แล้วก็มีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการกันความร้อนด้วย อย่างไรก็แล้วแต่ หิน แต่ละประเภทการนำไปใช้งานรวมทั้งการดูแลต่างกัน บางประเภทพื้น ผิวเรียบมัน มองหรูหรา ราคาสูง อย่าง หินอ่อน แม้กระนั้นบางประเภทผิวหยาบคาย แล้วก็มีความชอบธรรมชาติ กว่า ราคาถูกยิ่งกว่า อาทิเช่น หินกาบ หินทรายแผ่นใหญ่ ที่จะรู้สึก ถึงความวิกลจริตนๆอบอุ่นบรรเทามากยิ่งกว่า เจ้าของบ้านสามารถเลือกใช้ได้ตามสมควร

บ้านร่วมยุค

แปลกไหมถ้าหากจะก่อสร้างบ้านใหม่แต่ว่าวางแบบให้มองร่วมยุคแบบบ้านเก่า หากดูจากสายตาพวกเราก็อาจมองว่าแปลกจะทำใหม่ทั้งทีควรจะเป็นบ้านโมเดิร์นไปเลยคงจะดีมากกว่า แม้กระนั้นบางบุคคลก็ถูกใจเสน่ห์ของช่วง รวมทั้งบางบ้านก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความจำกัดบางประการ ซึ่งบ้านในบทความนี้ เป็นอย่างข้างหลัง สุด ด้วยเหตุว่าในประเทศออสเตรเลีย จะมีข้อบังคับแบบแปลนเมืองชุมชน ที่จะระบุว่าแต่ว่าละโซนควรจะ ดีไซน์สถาปัตยกรรมยังไง ภายหลังจากการสนทนา กับอีกทั้งที่ประชุมเขตแดน และก็ศาลปกครองของเมือง ก็มีกติกาว่าบ้านใหม่ควรจะได้รับการออกแบบให้มี look เสมือนบ้านเก่า มันเป็นความท้าที่จะทำยังไงก็ได้ไม่ให้บ้านแปลงเป็นสิ่งที่เคยล้ำสมัยในสมัยสมัยก่อน แม้กระนั้นจะต้องร่วมอยู่ในยุคนี้ได้ด้วย

บ้านแบบกระต๊อบที่มองล้ำยุค

Subiaco House วางแบบโดย Robeson Architects เป็นที่พักผ่อนในเมือง เจ้าของบ้านเดินทางเสมอๆรวมทั้งคิดแผนที่จะพักในบริเวณนอกเมืองอันร่มรื่นนี้ คนเขียนแบบก็เลยวางแบบบ้านเป็นเสมือนสไตล์คอทเทจ แม้กระนั้นลักษณะเสมือนมีหลังคาแบ่งแยก สิ่งของหลังคาใช้เมทัลชีทสีขาวทรงทรงปั้นหยาข้างหลัง หลังคาจั่วเมทัลชีทกรอบเหล็กสีดำ แล้วก็กันสาดตรงๆยื่นออกมาข้างหน้าส่วนของโรงรถ การใช้ไม้ เหล็ก แล้วก็สิ่งของซีเอฟซี (เส้นใยปูนซีเมนต์) ห่อตัวบ้าน และออกแบบทำให้บ้านมีความราบเรียบคมแบบร่วมยุค ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้การดูแลและรักษามากมาย

โถงฟุตบาทก่อนเข้าบ้าน มีฝ้าเพดาน ไม้ตีเป็นแถวนำสายตา ที่เข้าชุดเข้ารอยกัน กับประตู ไม้สีเดียวกัน ด้านข้างบานประตูเป็นช่องหน้าต่างติดบานเกล็ดช่วยระบายอากาศสูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลัษณ์ของบ้านในประเทศออสเตรเลียที่พวกเราชอบได้มองเห็นกันเป็นประจำทำให้เกิดความรู้สึกว่าบ้านนี้ยินดีต้อนรับดวยความอบอุ่น HOME IN PHUKET

ความมั่นคงยั่งยืนเป็นหัวใจของบ้าน

ในบ้านปูด้วยแผ่นพื้นคอนกรีตแบบ salt and pepper เป็นการบดผิวคอนกรีตเบาๆเพื่อเปิดเผยให้มองเห็นหินละเอียด รวมทั้งทราย ที่หลบอยู่ใต้ผิว แล้วฉาบผิวหน้า ตรงนี้จะติดฝาผนังกระจกเบือนหน้าไปทางทิศเหนือ ในห้องรับแขกช่วยทำให้แผ่นพื้นดูดซึมและก็เก็บกักความร้อนในระหว่างวันแล้วปลดปล่อยในช่วงเวลาค่ำคืน ซึ่งเป็นแนวทางที่มีคุณภาพที่สุด สำหรับเพื่อการทำความอุ่น แบบธรรมชาติ ในฤดูหนาว หน้าต่างบานเกล็ดที่ปลายอีกด้านของบ้านเปิดรับลมด้านตะวันตกเฉใต้ แล้วก็ทำให้บ้านเย็นสบายในเวลาบ่ายหน้าร้อน ทำให้รกรากสภาพการณ์สบายอย่างยั่งยืน

อีกทั้งพื้นที่แล้วก็งบประมาณถูกเทน้ำหนักไปที่พื้นที่ ที่เจ้าของบ้าน เข้าใช้เยอะที่สุด โน่นเป็น พื้นที่นั่งพักผ่อน รวมทั้งห้องนอนรวม จุดเด่น ของห้องรับแขก เป็นเพดานแหลมสูงเปิดสู่ลานทางด้านเหนือรับทิวทัศน์จากธรรมชาติงามๆพื้นที่ที่โล่งแจ้งนี้มีที่บังแดดแบบพับเก็บได้ ทำให้ผู้ครอบครองสามารถควบคุมการส่องผ่านของพระอาทิตย์ได้ตลอดทั้งปี

น้อยๆสงบเรียบแม้กระนั้นเชิญชวนอบอุ่น

ดีไซน์เนอร์อุตสาหะหลบหลีก การใช้อุปกรณ์ ที่ต่างกันเยอะเกินไปหรือนานาประการเฉดสี ด้วยเหตุว่าการเลือกใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่างทำให้ควบคุมภาพรวมของการตกแต่งได้ง่าย แล้วก็อดออมค่าครองชีพเพิ่มมากขึ้น เนื่องด้วยพวกเราสามารถสั่งซื้อแต่ละส่วนประกอบได้หลายชิ้นขึ้น อาทิเช่น พื้นคอนกรีตขัดที่ปกคลุมท้องถิ่นและห้องนอน หินอ่อน Carrera ที่ใช้ในสุขา

บ้านสไตล์ คลาสสิก

วีเนียร์วอลนัทสีน้ำตาลเข้ม แผ่นเหล็กสีดำ ที่ย้ำความเป็นตู้ แล้วก็เพิ่มความอบอุ่น เมื่อเทียบกับพื้นคอนกรีต หลายจุดๆใช้สิ่งของประเภทเดียวกันแต่ว่าตัดเป็นชิ้นเล็กๆม้านั่งหินแกรนิตคาบูกิในครัวและก็ห้องซักรีดก็ถูกตัดทิ้งจากแผ่นพื้นเดียวกัน หรือหิน Travertine รอบๆพื้นที่ข้างนอก บ้านสองชั้น

มีพื้นที่ใช้งานถึงแม้ในซอกมุม

ใครกันแน่จะเกลียดพื้นที่อ่านหนังสือที่ใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างชาญฉลาด คนเขียนแบบเสกสรรค์พื้นที่ริมทางเดินระหว่างพื้นที่นั่งพักผ่อนรวมทั้งห้องนอนรวม ให้ปฏิบัติภารกิจ เป็นห้องหนังสือขนาดเล็กโดยใบเสร็จรับเงินท์ชั้นวางจากพื้นถึงเพดาน ขนานที่นั่งขอบหน้าต่างที่ยื่นออกไป ที่ลานในบ้าน ก็เลยเป็นหลักที่ที่เชิญให้เจ้าของบ้านมานอนอ่านหนังสือ ดีๆสักเล่มพร้อมรับแสงอาทิตย์รับทิวทัศน์ในเวลาว่าง ไม่เฉพาะแต่มีมุมอ่านหนังสือแทรกอยู่ บนฝาผนังเพียงแค่นั้น ในพื้นที่ว่างเล็กๆดีไซน์เนอร์ยังทำเป็นมุมซิงค์ล้างมือได้ คือการใช้พื้นที่ให้คุ้มอย่างแท้จริง

ระบบพื้นคอนกรีตขัดมันจริงๆในบ้านพวกเรามิได้มีแม้กระนั้นปูนเปลือยขัดมันดิบๆแบบที่พวกเราคุ้น แม้กระนั้นยังมีแบบ Crystal Diamond Floor และก็ salt and pepper ซึ่งเป็นการบดผิวคอนกรีตให้มองเห็นหินละเอียดแล้วก็ทรายที่หลบซ่อนอยู่ใต้ผิว แล้วต่อจากนั้นก็เลยฉาบผิวหน้าด้วยน้ำยา เช่น ลิเที่ยมซิลิเกตที่จะซึมเข้าไปทำปฏิกิริยากับเนื้อผิวคอนกรีต ทำผิวมีความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ บ้านสไตล์ตะวันออก

แล้วไปสู่ขั้นตอนการขัดจังหวะนกรีต ที่มีความใสสะอาดและก็ความเงามากยิ่งกว่า พื้นปูนซีเมนต์ขัดมันทั่วๆไป มองผิวเผินคล้ายพื้นหินขัด จุดเด่นของการ finishing ผิวคอนกรีตก่อนจะมีการใช้งานหมายถึงทรงสภาพผิวคอนกรีตที่ดี ต่ออายุการใช้แรงงานได้นานขึ้น และก็ ทำให้ผิวคอนกรีตขัดมันปกติมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย

บ้านคลาสสิก

ความหมายเรื่องความสวยสดงดงาม เป็นมุมมองที่ไม่แน่นอน ขึ้นกับรสนิยมของแต่ละบุคคลเป็นหลัก อย่างเจ้าของบ้านเก่าสองรุ่นหลังนี้ที่เผลอไผลในเส้นรวมทั้งส่วนประกอบที่มีความคลาสสิก ถึงแม้ระยะเวลาจะหมุนผ่านไปนานขนาดไหน จิตใจ ก็ยังยึดอยู่กับความรู้สึกชื่นชอบ ที่ฝังแน่น บ้านที่พักที่อาศัยก็เลยเป็นดุจสถานที่บ่มเพาะเรื่องราว ชี้ความเป็นตัวตนได้อย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องคอยการอนุญาตจากผู้ใด บ้านจัดสรร

ตึกหลังคาแบนข้างหน้า ที่มองเห็นอยู่เป็นโรงหยุดรถยนต์ประตูอัตโนมัติ ดูมีความล้ำยุคและก็กับช่วงที่ปรารถนาทั้งยังความปลอดภัย ความสบายสบายสำหรับการใช้งาน ด้วยเหตุว่าไม่ต้องลงจากรถยนต์มาเปิดประตู เพียงแค่กดรีโมทนิดหน่อยประตู ก็เปิดออกต้อนรับ การกลับสู่บ้านอย่างฉับพลัน

ประตูหยุดรถยนต์แบบเปิดขึ้นข้างบน เว้นเสียแต่มัธยัสถ์ พื้นที่ สำหรับการเปิดปิดแล้ว ยังเปรียบได้เสมือนดั่งป้อมที่ช่วยคุ้มครองปกป้อง ความเป็นส่วนตัวให้กับด้านใน บ้านด้วย ด้วยบานที่ปิดทึบก็เลยซ่อนสายตาจากผู้คนที่เดินทาง ผ่านไปผ่านมา ไม่ให้มองดูเข้ามามองเห็นโลกส่วนตัวที่อยากรักษาไว้

โรงหยุดรถยนต์ของบ้านข้างหลังนี้ มิได้มีเพียงที่มองเห็นมาจากข้างหน้าเพียงแค่นั้น ด้านในยังมีโรงหยุดรถยนต์เฉพาะกิจแอบไว้สำหรับเก็บรถยนต์คลาสสิกสุดรักสุดหวงของเจ้าของบ้านด้วย องค์ประกอบเหล็กเปิดฝาผนังแบบโปร่งๆอารมณ์เสมือนเข้ามาในพิพิธภัณฑสถานรถยนต์โบราณขนาดเล็ก ชื่นชอบอย่างชื่นมื่นก่อนเดินไปสู่ในบ้านทุกคราว

ตึกสองชั้นยกพื้นจากระดับดินขึ้นไปเพียงแค่ 2 ขั้นบันได

ข้างหน้ามีระเบียงยื่นออกมากับหลังคาบังแดดกันฝน กระเบื้องลอนโค้งมนแบบเริ่มแรก มีเชิงชายไม้ปรุติดเอาไว้เพิ่มความงอนงามงาม ประกอบกับเสาไม้สี่ต้นที่รอรับน้ำหนัก บรรยากาศก็เลยราวกับกำลังย้อนยุคกลับไปในหลายสิบปีที่ผ่านมา

ด้านในภายค่อนข้างจะมีความเรียบร้อยรวมทั้งสง่างาม ด้วยเครื่องเรือนที่เอามาตกแต่งออกแบบแบบโบราณรวมทั้งคลาสสิก ทำมาจากไม้ตามที่เป็นจริงเป็นส่วนมาก บางชิ้นมีการสานทำให้มีการเกิดลวดลายที่น่าคลั่งไคล้เพิ่มมากขึ้น มีการผสมฟังก์ชันแบบยุคใหม่เข้าไป เปิดโปร่งพื้นที่แบบ Open Plan เชื่อมโยงห้องรับแขกกับห้องกินอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้ด้านในภายมองโล่งกว้างมากขึ้น ทั้งยังยังคงใช้โทนสีสว่างสำหรับในการตกแต่งฝาผนัง เพดานและก็พื้น ยิ่งเสริมให้เครื่องเรือนไม้มองบรรเทากว่าเดิม HOME

บ้านสไตล์ คลาสสิก

ด้านล่างไม่ย้ำการใช้งานเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากว่าได้กระทำวางแบบช่องเปิดรับลมไว้อย่างพอเพียง ประตูไม้บานคู่ เปิดรับลมจากข้างหน้า รวมทั้งมีประตูไม้ข้างหลังห้องที่รอกระตุ้นการหมุนเวียนอากาศในบ้านให้ลื่นไหลอยู่อย่างสม่ำเสมอ ฝ้าเพดานด้านล่างย้ำแบบเรียบไม่มีรอยต่อ ส่วนฝ้าเพดานข้างบนนั้นใช้งานไม้จัดตั้งตามทรงจั่ว เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับพื้นที่พัก จัดให้มีห้องรับแขกบนชั้นสองอีกหนึ่งห้องไว้รองรับการใช้แรงงานของสมาชิกในครอบครัว หรือใช้เป็นหลักที่สารพัดประโยชน์ไว้นั่งพักก่อนแยกย้ายกันเข้าห้องนอน Phuket Villas

ห้องนอนที่มีการตีฝ้าตามแนวจั่ว เพื่อเพิ่มความสูงโปร่งให้แก่ห้อง การใช้ฝ้าไม้เป็นสิ่งของตกแต่งจะช่วยตัดทอนความรู้สึกเวิ้งว้างได้ไม่มากมายก็น้อย ด้วยเหตุว่าเมื่อนอนนอนลงบนเตียงระยะความสูงจากผู้นอนจนกระทั่งฝ้าเหนือสุดค่อนข้างจะมาก งานไม้สีน้ำตาลจะช่วยลดระยะความห่างนั้นได้ ด้วยสีน้ำตาลที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกอบอุ่นและก็สนิทสนมกับธรรมชาติ